วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567
เวลา : 23.30 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.75(-10)
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
02/11/23 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 / ลีก คัพ
19/08/23 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-1
11/03/23 บอร์นมัธ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
27/08/22 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 9-0
07/03/20 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 2-1
07/12/19 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
09/02/19 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-0
08/12/18 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-4
15/04/18 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-0
18/12/17 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-4
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
บอร์นมัธ
06/01/24 ชนะ คิวพีอาร์ 3-2 (เยือน) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.25 … เสีย
31/12/23 แพ้ สเปอร์ส 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.75 … เสีย
26/12/23 ชนะ ฟูแล่ม 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.5 … ได้
23/12/23 ชนะ ฟอเรสต์ 3-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / เสมอ … ได้
09/12/23 ชนะ แมนฯยู 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 9 ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 3 ได้ 11 เสีย 12
ลิเวอร์พูล
11/01/24 ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เหย้า) ลีก คัพ / ต่อ 1.25 … เสียครึ่ง
08/01/24 ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ / รอง 0.5 … ได้
02/01/24 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.5 … ได้
27/12/23 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.5 … ได้
24/12/23 เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / เสมอ … เจ๊า
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 10 ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 1 ได้ 17 เสีย 10
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
บอร์นมัธ
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 2
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 7 เสีย 5
ลิเวอร์พูล
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 0 ได้ 3 เสีย 5
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 1
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
บอร์นมัธ
บอร์นมัธ ของกุนซือ อันโดนี่ อิราโอล่า เพิ่งจะบุกเอาชนะ คิวพีอาร์ 3-2 ในศึก เอฟเอ คัพ เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์กอส เซเนซี่ ปราการหลังตัวหลักที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ อ็องตวน เซเมนโย่ และ ดังโก้ อูอัตตาร่า สองแข้งแอฟริกันที่มีคิวรับใช้ชาติ ส่วนพวก ดาร์เรน แรนดอล์ฟ, ไรอัน เฟรเดริคส์, ลอยด์ เคลลี่, ไทเลอร์ อดัมส์ และ ฮาเหม็ด ตราโอเร่ เหล่าตัวเจ็บที่อยู่ในระหว่างพักรักษาตัวทั้งหมด คาดว่า อิราโอล่า เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี โดมินิก โซลันเก้ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และ ฟิลิป บิลลิ่ง รับอาสาปั้นเกมรุกอยู่ด้านหลังตามสูตร
ตัวแบน :
กองหลัง – มาร์กอส เซเนซี่ (17 นัด/2 ประตู)
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู – ดาร์เรน แรนดอล์ฟ (-)
กองหลัง – ไรอัน เฟรเดริคส์ (-), ลอยด์ เคลลี่ (9 นัด)
กองกลาง – ไทเลอร์ อดัมส์ (-), ฮาเหม็ด ตราโอเร่ (3 นัด)
กองหน้า – อ็องตวน เซเมนโย่ (16 นัด/3 ประตู), ดังโก้ อูอัตตาร่า (13 นัด)
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เนโต้ – อดัม สมิธ, คริสโตเฟอร์ เมแฟม, อิลเลีย ซาบาร์นยี่, มิลอส เคอร์เคซ – ลูอิส คุ๊ค, ไรอัน คริสตี้ – มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, ฟิลิป บิลลิ่ง, จัสติน ไคลเวิร์ต – โดมินิก โซลันเก้
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ ฟูแล่ม 2-1 ในศึก ลีก คัพ เมื่อราวๆ สิบวันที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมล่าสุด จะไม่สามารถใช้งาน โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กับ วาตารุ เอนโด สองตัวเก่งที่ติดภารกิจรับใช้ชาติ เช่นเดียวกับ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, โฌแอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส และ สเตฟาน บายเซติช เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่อยู่ในระหว่างพักรักษาตัวทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โคดี้ กั๊กโป, ดาร์วิน นูนเญซ กับ ดิโอโก้ โชต้า ผนึกกำลังกันล่าตาข่ายในแดนหน้าตามระเบียบ
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – โฌแอล มาติป (10 นัด), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (8 นัด/1 ประตู), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (18 นัด/2 ประตู), คอนสแตนตินอส ซิมิกาส (10 นัด)
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (-), สเตฟาน บายเซติช (-), วาตารุ เอนโด (15 นัด/1 ประตู)
กองหน้า – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ (20 นัด/14 ประตู)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, โจ โกเมซ – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์ – โคดี้ กั๊กโป, ดาร์วิน นูนเญซ, ดิโอโก้ โชต้า
ทรรศนะ
แม้ว่าสภาพความพร้อมของทีมจะค่อนข้างหนักหนาสาหัสพอสมควรสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะมีตัวเจ็บกับติดทีมชาติรบกวนเพียบ อย่างไรก็ดีด้วยขนาดทีมที่ใหญ่ไม่ธรรมดา ทำให้ขุมกำลังเสริมที่เหลืออยู่สามารถขึ้นมาทดแทนแบบใช้ได้เลย ดูได้จากผลงานบอลถ้วยที่โชว์สปิริตดีต่อเนื่องคว้าชัยรวด 2 หนซ้อน นั่นทำให้ตลอด 4 นัดท้ายทุกรายการชนะรวด และกดไม่ยั้งเท้าร่วมๆ 10 ประตูถ้วน สอดคล้องกับเจ้าถิ่น บอร์นมัธ ที่จริงอยู่ว่าพวกเขาเริ่มติดเครื่องโชว์ฟอร์มแจ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ผลกระทบจากการเสีย แกนหลักไม่น้อย น่าจะทำให้เกมรุกลดทอนประสิทธิภาพลงไปเยอะ เรียกว่าโรเตชั่นแบบจำยอมเกือบทุกโซน ฉะนั้นไม่แปลกที่จะขอเทใจไปต่อเต็มกำลัง ฟันธง! จัดเต็ม “หงส์แดง” แรงต่อเนื่อง…!
ต่อ ลิเวอร์พูล 0.75
ฟันธง : “ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1 / 3-1”
Leave a Reply