วันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2566
พรีเมียร์ลีก
แมนฯซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล
เวลา : 18.30 น.
เรตราคาไทย : แมนฯซิตี้ ต่อ 1.0(-5)
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
แมนฯซิตี้
แมนฯซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 6-0 ในศึก เอฟเอ คัพ เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ จะไม่มีชื่อ ฟิล โฟเด้น ปีกตัวเก่งที่เดี้ยงเข้ามาสดๆ ร้อนๆ ส่วนทางด้านของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ต้องรอเช็คฟิตจนวินาทีสุดท้าย หลังมีอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่หน่อยๆ คาดว่า เป๊ป เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ กับ แจ็ค กรีลิช เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามระเบียบ
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองกลาง – ฟิล โฟเด้น (24 นัด/9 ประตู)
แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานยี่, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ – โรดริโก้ เอร์นานเดซ, อิลคาน กุนโดกาน – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช – ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด 0-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม จะไม่สามารถใช้งาน แคลวิน แรมเซย์, สเตฟาน บายเซติช, โจ โกเมซ กับ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่ยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป กับ ดาร์วิน นูนเญซ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายและใช้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผนึกกำลังกันคุมเชิงจากแดนกลางตามสูตร
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – แคลวิน แรมเซย์ (-), สเตฟาน บายเซติช (11 นัด/1 ประตู), โจ โกเมซ (19 นัด)
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (14 นัด)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป, ดาร์วิน นูนเญซ
ทรรศนะ tengchamp
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเชื่อว่าเจ้าถิ่น แมนฯซิตี้ คว้าชัยได้ไม่ยากเย็น แม้อาจจะต้องลุ้นความฟิตของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ แต่ขุมกำลังหลักรายอื่นๆ ก็ยังเปี่ยมไปด้วยความเก่งกาจและอันตรายแบบสุดๆ อยู่ดี แถมได้บู๊ใน เอติฮัด สเตเดี้ยม ยิ่งทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบมากขึ้นหลายเท่าตัว ปิดท้ายด้วยผลงานก่อนเบรคทีมชาติก็เพิ่งจะกำชัยรวด 2 หนซ้อนทุกรายการและซัดรวมกันทั้งสิ้นกว่า 13 ประตู สวนทางกับทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่แพ้รวด 2 เกมท้ายทุกเวทีและเป็นสองเกมที่ยิงใครไม่ได้ เท่านั้นยังไม่พอยังเป็นทริปบู๊นอกสถานที่ทั้งสองแมตช์อีกด้วย ถ้าว่ากันในเรื่องของความมั่นใจกับฟอร์มการเล่นบอกเลยว่ากินขาดสู้ยากแน่นอน ฉะนั้นมีเปอร์เซ็นต์ที่จะโดนไล่ต้อนสูงมาก แนะนำอยู่ต่อไม่ต้องรอลงอาญา ฟันธง! จัดหนัก “เรือใบสีฟ้า” ท้าให้ลอง!
ต่อ แมนฯซิตี้ 1.0
ฟันธง : “แมนฯซิตี้ ชนะ 2-0”
Leave a Reply